ตำนานกองหน้าชาวสเปน หนึ่งในดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติสเปนในยุค 2000

ดาวิด บีย่า ตำนานกองหน้าชาวสเปน หนึ่งในกองหน้าที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของวงกาลฟุตบอล ที่มีชื่อจริงว่า ดาวิด บีย่า ซานเชซ เกิด 3 ธันวาคม 1981 ในช่วงยุคปี 2005 คงจะต้องมีชื่อของ ดาวิด บีย่า รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับบาเลนเซียในฤดูกาล 2004-05 ที่ผ่านมา

เขาเป็นหัวหอกที่เปี่ยมไปด้วยทักษะและสัญชาตญาณของการพังประตู การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ความเร็วและความครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นการยิงด้วยเท้าและลูกกลางอากาศที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน ก็ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทั้งสโมสรและทีมชาติได้อย่างรวดเร็ว

บีย่า เริ่มต้นการเล่นอาชีพเมื่อปี 1991 กับ ยูพี ลันเกรโอ ซึ่งเป็นทีมในบ้านเกิด ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมสปอร์ติ้ง กิฆอน ในปี 1999 และประเดิมเกมในระดับลีก้า 2 ในฤดูกาล 2000-01 จากนั้น รีล ซาราโกซ่า ก็ได้หยิบยื่นโอกาสให้เขาได้สัมผัสประสบการณ์ในเกมระดับลา ลีก้า เป็นครั้งแรกในปี 2003 ระหว่างที่ค้าแข้งกับ ซาราโกซ่า เป็นเวลา 2 ฤดูกาล บีย่า ก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ ด้วยการเฉือนรีล มาดริด และ สแปนิช ซูเปอร์คัพ ในปี 2004 ด้วยการเอาชนะ บาเลนเซีย เจ้าของแชมป์ลา ลีก้า ไปได้อย่างพลิกความคาดหมาย






ด้วยฟอร์มการถล่มประตูที่เฉียบขาด ทำให้ “เจ้าค้างคาว” ยอมทุ่มเงิน 12 ล้านยูโร (ประมาณ 600 ล้านบาท) เพื่อดึงตัว บีญ่า มาร่วมทีมในปี 2005 ในฤดูกาล 2004-05 บีญ่าก็ตอบแทนค่าตัวได้คุ้มค่าทุกเซนต์เมื่อทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการทำ 25 ประตูจากการลงสนาม 35 นัดในลีก จะเป็นรองก็แค่ ซามูแอล เอโต้ ดาวยิงของบาร์เซโลน่า ที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดลา ลีก้า เพียงคนเดียวเท่านั้น โดย เขาสร้างความฮือฮาด้วยการกดแฮตทริกแรกให้บาเลนเซีย ด้วยการใช้เวลาเพียง 5 นาที ในเกมที่บุกไปเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา 3-0 เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา

จากการทำประตูที่คงเส้นคงวาทำให้มีหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปจ้องที่จะคว้าตัวหัวหอกวัย 25 ปีไปล่าตาข่าย ซึ่งรวมถึง เชลซี แชมป์พรีเมียร์ชิพ 2 สมัย แต่ บาเลนเซีย ก็ไม่คิดที่จะปล่อยเสาหลักของทีมรายนี้ไปง่ายๆ จึงได้จับต่อสัญญาอยู่โยงในถิ่นเมสตาญ่า สเตเดี้ยม ไปจนถึงปี 2013

จากการทำประตูที่คงเส้นคงวาทำให้มีหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปจ้องที่จะคว้าตัวหัวหอกวัย 25 ปีไปล่าตาข่าย ซึ่งรวมถึงเชลซี ทีมดังของอังกฤษ แต่บาเลนเซียก็ไม่คิดที่จะปล่อยเสาหลักของทีมรายนี้ไปง่าย ๆ จึงได้จับต่อสัญญาอยู่โยงในถิ่นเมสตายาสเตเดียมไปจนถึงปี 2010 แต่บาร์เซโลนาก็มาซื้อตัวดาบิด บิยา ไปด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร จนถึงปี 2013-2014 ต่อจากนั้นก็ย้ายไปแอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัว 5.1 ล้านยูโร แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่กับสีเสื้อตราหมี


ในส่วนของทีมชาติ บีย่า ก็มีผลงานที่น่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดย อดีตนักเตะตัวหลักของทีมชาติสเปน ชุดยู-21 เลื่อนขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมที่พบกับ ซาน มาริโน่ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2005 นอกจากนั้น ยังช่วยทำยิงประตูในเกมเพลย์ออฟ ฟุตบอลโลก ที่พบกับ สโลวาเกีย ด้วย

หลังจากที่ช่วยพาทีมกระทิงดุผ่านเข้ามาร่วมฟาดแข้งในรอบสุดท้ายที่ประเทศเยอรมันแล้ว บีย่า ดาวยิงตัวเก่งของบาเลนเซีย ก็ยิงได้ 2 ประตูในนัดที่พบกับ ยูเครน และยิงจุดโทษในเกมที่พ่าย ฝรั่งเศส 1-3 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะปิดฉากฟุตบอลโลกครั้งแรกด้วยการทำ 3 ประตู






ในปี 2008 สเปนเข้าแข่งฟุตบอลยูโร 2008 เป็นปีที่สร้างชื่อเสียงให้กับบีย่ามากที่สุด ขณะที่ทั้งโลกจับตามอง เฟร์นานโด ตอเรส แต่กลับเป็นบีย่า ที่ระเบิดฟอร์มในทัวร์นาเม้นต์นี้ โดยประเดิมสนามกับทีมรัสเซีย เขากดไปถึง 3 เม็ด!! ซัดแฮทริคให้ทีมถล่มรัสเซียไป 4-1 จบทัวร์นาเม้นต์ สเปนคว้าแชมป์ไว้ได้ และเขาก็ได้ตำแหน่งดาวยิงสูงสุด 4 ประตูด้วย

และในศึก คอนเฟดเดเรชั่นคัพ ที่ผ่านมา บีย่า ซึ่งเป็นกำลังหลักของทีม ทำผลงานได้ 3 ประตูตลอดทัวร์นาเม้น ประตูสำคัญก็คือ การโหม่งประตูชัยให้สเปนเฉือนเอาชนะอิรักไปได้ 1-0 ช่วยให้สเปน ชนะรวด 3 นัด คว้าที่ 1 ของกลุ่มไปอย่างสบาย ก่อนจบทัวร์นาเม้นในอนดับที่ 3 ซึ่งตั้งแต่รอบตัดเชือกมา บีย่า ทำประตูไม่ได้เลย

ดาบิด บียา ถือได้ว่าเป็นนักฟุตบอลทีมชาติสเปนที่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกติดต่อกันถึง 3 สมัย คือ ฟุตบอลโลก 2006, ฟุตบอลโลก 2010 และฟุตบอลโลก 2014 และคว้าแชมป์โลกมาได้หนึ่งสมัย คือ ฟุตบอลโลก 2010 และเป็นเจ้าของสถิติผู้ทำประตูสูงสุดของทีมชาติสเปน คือ 59 ประตู ทำลายสถิติเดิมของราอูล กอนซาเลซ และเป็นนักฟุตบอลสเปนที่ยิงในฟุตบอลโลกมากที่สุด คือ 9 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 12 นัด

เกียรติประวัติ
ซาราโกซ่า
โคปา เดล เรย์: 2003–04
ซูเปร์โกปา เด เอสปาญา: 2004
บาเลนเซีย
โคปา เดล เรย์: 2007–08
บาร์เซโลน่า
ลาลีกา: 2010–11, 2012–13
โคปาเดลเรย์: 2011–12
ซูเปร์โคปา เด เอสปาญา: 2010, 2011
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2010–11
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2011
ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ: 2011
แอตเลติโก มาดริด
ลาลีกา: 2013–14
วิสเซล โกเบ
เอ็มเพอเรอร์คัพ: 2019

credit images : https://www.eldesmarque.com/

credit images : https://www.elperiodicodearagon.com/

credit images : https://www.valenciacf.com/

credit images : https://www.footmercato.net/

credit images : https://www.topmercato.com/

credit images : https://www.dailymail.co.uk/

credit images : https://www.nytimes.com/

credit images : https://www.marca.com/

credit images : https://nld.com.vn/the-thao