แกรี่ ลินิเกอร์ หนึ่งในตำนานลูกหนังชาวอังกฤษที่ประสบความสำเร็จในอาชีพมากที่สุดคนหนึ่ง

แกรี่ ลินิเกอร์ หากให้นึกถึงชื่อกองหน้าระดับตำนานประจำวงการลูกหนังเมืองผู้ดีรวมถึงวงการลูกหนักโลก แกรี่ ลินิเกอร์ ย่อมเป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้าของฉายา “มิสเตอร์ ไนซ์ กาย” อันเนื่องมาจากการที่ไม่เคยโดนแม้แต่ใบเหลืองตลอดอาชีพค้าแข้ง เป็นลูกหม้อพันธุ์แท้ของ เลสเตอร์ ซิตี้ หลังเกิดและเติบโตในเมืองนี้ก่อนเข้าไปฝึกฝนวิชาลูกหนังกับศูนย์ฝึกเยาวชนของ “เดอะ ฟ็อกซ์ส” ในวัย 16 ปีหลังเล่นทั้งฟุตบอลและคริกเก็ตและสุดท้ายเลือกอย่างแรกในที่สุด

ลินิเกอร์ ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 1978-79 โดยหนึ่งในขุนพลชุดแชมป์ ดิวิชั่น 2 ในอดีตในซีซั่นถัดมาแต่เจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามน้อยกว่าเดิมในปีแรกบนระดับลีกสูงสุดก่อน “เดอะ ฟ็อกซ์ส” ต้องเป็นอันตกชั้นในที่สุด





เข้าสู่ฤดูกาล 1981-82 ลินิเกอร์ ขยับขึ้นมาเป็นตัวหลักของ เลสเตอร์ฯ ซึ่งพลาดโอกาสเลื่อนชั้นอย่างน่าเสียดายแต่บรรลุเป้าหมายดังกล่าวในปีถัดมาด้วยการคว้าอันดับ 3 โดย ลินิเกอร์ เป็นดาวยิงสูงสุดด้วยผลงาน 26 ประตู แกรี่ ลินิเกอร์ ทำสถิติยิงประตูรวมทุกรายการให้กับทีมจิ้งจอกสยาม ถึง 103 ประตู มากที่สุดเป็นอันดับที่ 7 ของสโมสร โดยลงสนามให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ไปรวมทั้งสิ้น 216 นัด

จากนั้น ลินิเกอร์ ย้ายไปค้าแข้งกับ เอฟเวอร์ตัน ในซีซั่น 1985-86 ตามด้วยการไปเผชิญความท้าทายครั้งใหม่กับ บาร์เซโลน่า ซึ่งเจ้าตัวสัมผัสแชมป์ระดับทวีปเป็นครั้งแรก (ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1989) และแชมป์ โกปา เดล เรย์

หลังเล่นให้ บาร์ซ่า มาเป็นเวลา 3 ปี ลินิเกอร์ เลือกย้ายกลับมาสู่ อังกฤษ อีกครั้งโดยเซ็นสัญญากับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และช่วยทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 1991

อย่างไรก็ดี ลินิเกอร์ ไม่ได้แขวนเกือกบนแผ่นดินเกิดหลัง สเปอร์ ปฏิเสธข้อเสนอจาก แบล็กเบิร์น ก่อนตัดสินใจย้ายข้ามน้ำข้ามทะเลไปค้าแข้งกับ นาโกย่า แกรมปัส เอต ใน เจ ลีก ญี่ปุ่น โดยเจ้าตัวใช้เวลาที่นั้น 2 ปีและปิดฉากอาชีพค้าแข้งในวัย 34 ปี

ในระดับทีมชาติ ลินิเกอร์ เคยเล่นให้ อังกฤษ ชุดบี ก่อนประเดิมสนามให้ทีมชาติชุดใหญ่ในเกมเจอกับ สกอตแลนด์ เมื่อปี 1984 ก่อนเปล่งประกายอย่างเจิดจรัสที่สุดใน ฟุตบอลโลก 1986 แม้ว่าต้องจอดป้ายที่รอบก่อนรองชนะเลิศ แต่เขากดไปถึง 6 ประตู และคว้ารางวัลดาวซัลโว และเป็นนักเตะอังกฤษเพียงคนเดียวที่ได้รับเกียรติยศดังกล่าวจนถึงเวลานี้





ลินิเกอร์ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ อังกฤษ คนหนึ่งรองจากชุดแชมป์ เวิลด์ คัพ 1966 ด้วยการพาทีมก้าวถึงรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก 1990 แม้ต้องปราชัยต่อเยอรมันตะวันตก ก่อนจบอันดับที่ 4 ในที่สุด ตลอดระยะเวลา 12 ปีในสีเสื้อ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เขารับใช้ทีมชาติไปกว่า 80 นัด และทำไป 48 ประตู พร้อมครองอันดับ 3 บนชาร์ตดาวยิงสูงสุดตลอดการของทีมชาติอังกฤษจนถึงปัจจุบัน

เกียรติประวัติ
เลสเตอร์ ซิตี้
ฟุตบอลลีก เซคันด์ดิวิชั่น: 1979–80
เอฟเวอร์ตัน
เอฟเอ แชริตี้ ชิลด์: 1985
บาร์เซโลน่า
ยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ: 1988–89
โกปา เดล เรย์ : 1987–88
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
เอฟเอ คัพ: 1990–91
เอฟเอ ชาริตี้ ชิลด์: 1991