กาบอร์ คิราลี อดีตตำนานผู้รักษาประตูของ ฮังการี ที่มีการแต่งตัวไม่เหมือนชาวบ้าน

ในโลกฟุตบอล ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู คือหนึ่งในตำแหน่งที่ได้รับการจำตามองมากที่สุดยามอยู่ในสนาม เนื่องด้วยตำแหน่งนี้คือปราการด่านสุดท้ายที่คอยป้องกันไม่ให้ลูกฟุตบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย

ดังนั้นถ้าผู้เล่นตำแหน่งนี้มีอะไรที่ผิดแปลกจากขนบทั่วไปแม้เพียงนิดเดียว เหล่าแฟนบอลก็จะจดจำเขาได้ทันที เช่น ฮอร์เก กัมโปส ผู้รักษาประตูร่างเล็กชาวเม็กซิกันที่มักจะมาพร้อมกับชุดสีสันสดใสเสมอ ปีเตอร์ เชค ตำนานผู้รักษาประตูกับเฮดการ์ดคู่ใจ, เรเน่ ฮิกีตา กับท่าสกอร์เปี้ยนคิกบันลือโลก

ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีผู้รักษาประตูอีกมากมายหลายคนที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลเสมอ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ กาบอร์ คิราลี ที่เราจะพูดถึงในครั้งนี้ เขาคือผู้รักษาประตูสัญชาติฮังการี ที่มักจะลงสนามด้วยการใส่ กางเกงวอร์มขายาวสีเทาอยู่เสมอ เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวที่โดดเด่นไม่มีใครเหมือน

กาบอร์ คิราลี เกิดและเติบโตที่ โซมบอตเฮ เมืองชายแดนทางฝั่งตะวันตกของประเทศฮังการี อยู่ห่างจากเขตประเทศออสเตรียเพียงไม่กี่ไมล์ ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่มีอะไรหวือหวา ครอบครัวอยู่ในระดับฐานะปานกลาง ไม่ร่ำรวยแต่ก็ไม่ลำบาก คิราลี เข้าสู่โลกฟุตบอลด้วยเหตุผลสุดแสนจะธรรมดา

เรียกได้ว่า คิราลี เป็นลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นอย่างแท้จริง เพราะในวัยเพียง 17 ปี ชีวิตค้าแข้งของเขาก็เริ่มต้นขึ้นด้วยการเล่นให้กับ ซอมบาร์ทยี่ ฮาราดาส สโมสรเดียวกันกับคุณพ่อ เพียงแต่ว่าตำแหน่งที่เล่นนั้นตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง เพราะหน้าที่เขาไม่ใช่การทำประตู แต่คือการป้องกันประตู

ตลอดเวลา 3 ฤดูกาล ณ สโมสร ซอมบาร์ทยี่ ฮาราดาส คือเวทีที่ปลุกปั้นให้พรสวรรค์ของ คิราลี เจิดจรัส ถึงแม้ว่าผลงานของสโมสรต้นสังกัดจะอยู่แค่เพียงกลางตาราง แต่ คิราลี กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนโดน “แฮร์ธ่า เบอร์ลิน” สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเมืองหลวงประเทศเยอรมันคว้าตัวไปร่วมทัพด้วยค่าตัว 100,000 ยูโร

และ ณ แผ่นดินเมืองเบียร์นี้เอง ชื่อของ คิราลี ก็ยิ่งโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ เขาคือกำแพงเหล็กคนสำคัญชนิดที่ขาดไม่ได้ โดยตลอด 7 ฤดูกาล คิราลี ลงเล่นในบุนเดสลีกาไปทั้งหมด 198 นัด มีส่วนช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ “เดเอฟเบ-ลีกาโพคาล” 2 สมัยซ้อน ฤดูกาล 2001-02, 2002-03 นอกจากนั้นยังพาทีมเข้าร่วมศึก ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล 1999-2000 และสามารถทะลุเข้าถึงรอบแบ่งกลุ่มรอบที่ 2 ได้สำเร็จทั้งๆ ที่เป็นม้านอกสายตา

ด้วยเจตนารมณ์นี้ ทำให้สุดท้ายเขาก็ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีม “ปราสาทเรือนแก้ว”คริสตัล พาเลซ ทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษสมใจ และทั้งๆ ที่มีสโมสรในพรีเมียร์ลีกมากมายพร้อมจะมอบสัญญาให้ แต่ คิราลี กลับเลือกทีมปราสาทเรือนแก้วอย่างไม่ลังเล ด้วยเหตุผลสุดเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร

ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะตลอด 3 ฤดูกาลกับ คริสตัล พาเลซ เขาก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ ทั้งๆ ที่มีอีกหนึ่งผู้รักษาประตูฝีมือดีอย่าง จูเลี่ยน สเปโรนี่ ย้ายเข้ามาพร้อมๆ กัน

สุดท้ายงานเลี้ยงก็มีวันเลิกรา ด้วยอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สุดท้ายไฟของเขากับ คริสตัล พาเลซ ก็หมดลงในปี 2007 คิราลี ระเห็ดไปอยู่กับสโมสร เบิร์นลี่ย์ แต่ก็ไม่สามารถยึดมือหนึ่งได้ โดยลงเล่นในลีกไปเพียง 27 นัดตลอด 2 ปี

ในปี 2009 คิราลี ในวัย 33 ปี ก็ออกเดินทางอีกครั้ง โดยคราวนี้จุดหมายปลายทางของเขาคือสโมสร 1860 มิวนิค ในลีก บุนเดสลีกา 2 ประเทศเยอรมัน โดยที่นี่ คิราลี ก็กลับมายึดมือหนึ่งได้อีกครั้ง แต่ด้วยความที่เป็นลีกระดับรอง ทำให้เขาไม่โดดเด่นอย่างที่เคยอีกแล้ว นอกจากนั้นเขาก็ไม่สามารถพาต้นสังกัดขึ้นสู่บุนเดสลีกาได้ สวนทางกับอายุของเขาที่มากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากใช้ชีวิต 5 ฤดูกาลกับ 1860 มิวนิค ในฤดูกาล 2004-05 เขาก็กลับมาประเทศอังกฤษอีกครั้งในช่วงสั้นๆ กับสโมสร ฟูแล่ม และในตอนนี้ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเวลาของเขากับเกมฟุตบอลระดับสูงจบลงแล้ว เพราะเขาได้ลงเล่นเพียง 5 นัดเท่านั้นในฤดูกาลดังกล่าว ทำให้ในฤดูกาลถัดมา คิราลี ก็ตัดสินใจ “กลับบ้าน” โดยเซ็นสัญญากับสโมสร ซอมบาร์ทยี่ ฮาราดาส สโมสรแรกในชีวิตของเขา

สุดท้าย คิราลี ก็แขวนถุงมือกับสโมสร ซอมบาร์ทยี่ ฮาราดาส ในฤดูกาล 2019 ที่ผ่านมา ด้วยวัย 43 ปี ปิดตำนานการค้าแข้งอันยาวนานกว่า 26 ปี ของเขาอย่างสมบูรณ์

เกียรติประวัติ
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน
ดีเอฟแอล-ลิกาโปคาล: 2001, 2002

images credit : https://onlineshop.2023salebest.ru/