เดนิส เออร์วิน หนึ่งในปราการหลังที่ไว้ใจได้มากที่สุดคนหนึ่งของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

เดนิส โจเซฟ เออร์วิน หรือที่รู้จักกันในนาม เดนิส เออร์วิน ปราการหลังที่ค้าแข้งโด่งดังจนถึงขีดสุดกับ ปีศาจแดง ในยุค 90′ เขาเกิด 31 ตุลาคม 1965 คอร์ก ไอร์แลนด์ เขาถือว่าคือหนึ่งในกองหลังที่ดีสุดของยุค อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือเลยก็ว่าได้

เดนิส เออร์วินเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรและประเทศ เขาเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แสดงให้เห็นถึงการทำงานทางฝั่งแบ็คซ้ายของเขาและหลักแหลมในการทำประตู

หนึ่งในสุดยอดนักเตะในยุคใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับ เดนิส เออร์วิน นั้น เขามีอาชีพค้าแข้งที่ดีทั้งกับสโมสร และในทีมชาติ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักเตะที่ถูกพูดถึงมากนัก แต่เขาก็เป็นแบ็คซ้ายที่ทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวามากที่สุดในสีเสื้อแมนฯยูสมัยนั้น นอกจากนี้ยังยิงประตูได้อยู่เรื่อยๆ อีกด้วย




อดีตนักเตะฝึกหัดของ ลีดส์ ยูไนเต็ด รายนี้ย้ายจากโอลด์แฮม แอธเลติก เข้ามาร่วมทีมปีศาจแดงด้วยค่าตัว 625,000 ปอนด์ในปี 1990 หลังจากที่เขาทำผลงานได้ดีในการพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ จนไปเตะตาบรมกุนซือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

ฤดูกาลแรกของเขากับทีมปีศาจแดงจบลงด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ที่ร็อตเตอร์ดัม แต่ฤดูกาล 1992-93 ต่างหากที่เขาได้สร้างชื่อขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่ทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์ลีก เขาทำประตูได้ทั้งหมด 5 ลูก รวมถึงการยิงจากระยะ 30 หลาในเกมที่พบกับโคเวนทรี ซิตี้ จนเป็นที่ฮือฮาอย่างมากอีกด้วย

เออร์วิน พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ในฤดูกาล 1993-94 ก่อนที่จะทำได้อีกครั้งในปี 1996 เขาต้องพลาดการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 1999 เพราะว่าติดโทษแบน ก่อนที่จะได้กลับมาเตะนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่คัมป์ นู ที่พบกับ บาเยิร์น มิวนิค โดยในตอนนั้นเขามีอายุถึง 34 ปีแล้ว

ก่อนเข้าสู่ปี 2000 เออร์วิน ตัดสินใจยุติบทบาทในนามทีมชาติเพื่อหันมาเต็มที่กับอาชีพค้าแข้งในระดับสโมสร และการลงเล่นเกมที่ 500 กับทีมปีศาจแดงของเขาก็มาถึงในปี 2001 โดยมันเกิดขึ้นในช่วงเซนต์ แพทริคส์ เดย์ พอดิบพอดี

เขาได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ จากนั้นเขาก็ได้รับบทบาทเป็นกัปตันทีมอีกครั้งในเกมเหย้านัดสุดท้ายของฤดูกาลที่พบกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ซึ่งเขาสามารถคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 7 ของเขาเองไปครองได้สำเร็จ และต่อสัญญากับทีมออกไปอีก 1 ปี

ในที่สุดเขาก็ปิดฉากการค้าแข้งที่สวยงามลงรวมเป็นระยะเวลา 12 ปีในนัดที่พบกับชาร์ลตัน แอธเลติก ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2002 เขาเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองของยูไนเต็ดกับเหรียญแห่งชัยชนะ 13 ครั้ง

ขาพามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการพา ยูไนเต็ด ครองความยิ่งใหญ่ในช่วงทษวรรษที่ 1990 จนถึง 2000 ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายของ “ปีศาจแดง” เข้าได้แชมป์ลีกสูงสุดไปถึง 7 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 1 สมัย, คัพ วินเนอร์ส คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก อย่างละ 1 สมัย

ในยุคของ เฟอร์กูสัน เขาลงเล่นให้กับทีมไปทั้งหมด 529 นัด ยิงไป 33 ประตู ก่อนที่จะโบกมืออำลาทีมไปอยู่กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในฤดูกาล 2002 – 2003 และลงเล่นให้กับ “หมาป่า” อีก 2 ฤดูกาลก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในวัย 39 ปี






เกียรติประวัติ
โอลดัมแอทเลติก
ฟุตบอลลีกคัพ รองชนะเลิศ: 1989–90
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แชมป์พรีเมียร์ลีก: 1992–93, 1993–94, 1995–96, 1996–97, 1998–99, 1999–2000, 2000–01
แชมป์เอฟเอ คัพ: 1993–94, 1995–96 รองชนะเลิศ: 1994–95
แชมป์ฟุตบอลลีกคัพ: 1991–92 รองชนะเลิศ: 1990–91, 1993–94
เอฟเอ แชริตี้ ชิลด์: 1990, 1993, 1996, 1997
แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 1998–99
แชมป์ยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ: 1990–91
แชมป์ยูโรเปียน ซูเปอร์ คัพ : 1991
แชมป์อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ: 1999
วูล์ฟแฮมป์ตัน
แชมป์ฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชั่น เพลย์ออฟ: 2003

credit : https://www.nationalfootballmuseum.com/

images credit : https://www.benchwarmers.ie/

images credit : https://www.oldhamathletic.co.uk/

images credit : https://punditarena.com/

images credit : https://www.echolive.ie/

images credit : https://www.footiecentral.com/

images credit : https://champions-speakers.co.uk/speaker-agent/denis-irwin