บรูซ กร็อบเบลาร์ ยอดผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ในอดีต

บรูซ กร็อบเบลาร์ ยอดนายทวารที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล เกิด 6 ตุลาคม 1957 เป็นอดีตผู้รักษาประตู ซึ่งเคยรับใช้ทีมชาติ ซิมบับเว ในการแข่งขันระดับนานาชาติ และช่วงที่ดีที่สุดของเขาก็คือตอนที่เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เขาใช้เวลามากกว่า 20 ปี ในการค้าแข้งในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ และมักจะสร้างสีสันในการเล่นอยู่เสมอ

กร็อบเบลาร์ เกิดในประเทศ แอฟริกาใต้ แต่เขาไปโตที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง โรเดเซีย (ปัจจุบันคือประเทศ ซิมบับเว) หลังจากลงเล่นให้กับสโมสรใน โรเดเซีย และ แอฟริกาใต้ อยู่หลายปี เขาก็ต้องเข้าร่วมกองทัพของโรเดเซีย เขาเคยร่วมทีมกับ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ในลีกอเมริกาเหนือ ปี 1979 ต่อมาเขาได้รับความสนใจจาก ลิเวอร์พูล ในขณะที่เขาถูกยืมตัวมาเล่นให้กับ ครูว์ อเล็กซานดร้า ในระหว่างฤดูกาล 1979-80 และสุดท้ายเขาก็ได้ตกลงเซ็นสัญญาร่วมทัพ “หงส์แดง” ในปี 1981

มาว่ากันที่สโมสรแรกในการค้าแข้ง กร็อบเบลาร์ ลงเล่นให้กับ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ของประเทศ แคนาดา เขาลงสนามเป็นเกมแรก เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 1979 ในช่วงปิดฤดูกาลเขาบินไปอังกฤษโดยได้ลงสนามซ้อมเล่นๆกับทีม เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน จนถูกทาบทามให้มาอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ทว่าดีลเป็นอันล้มเลิกไปเพราะใบอนุญาตทำงานไม่ผ่าน

แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 1979 สโมสร ครูว์ อเล็กซานดร้า ทีมในดีวิชั่น 4 ได้ขอยืมตัวเขาไปร่วมงาน กร็อบเบลาร์ ลงสนามในลีกไป 24 เกม เมื่อเขาโชว์ฟอร์มสุดยอดให้กับ ครูว์ อเล็กซานดร้า จึงทำให้เขาตกเป็นเป้าสนใจของ ทอม เซาน์เดอร์ส หัวหน้าแมวมองของ ลิเวอร์พูลทันที แต่การเจรจายังไม่จริงจังซักเท่าไหร่นัก หลังเขาหมดสัญญายืมกับ ครูว์ อเล็กซานดร้า เขาก็เดินทางกลับไปยังต้นสังกัด แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ และกลายเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งตลอดมา




ในปี 1981 ทาง ลิเวอร์พูล ตัดสินใจอีกครั้งในการดึงตัว กร็อบเบลาร์ ด้วยค่าตัว 250,000 ปอนด์ ในฐานะผู้รักษาประตูสำรองของทีม แต่เข้าสู่ช่วงกลางปี 1981 นายทวารมือหนึ่งอย่าง เรย์ คลีเมนซ์ สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการย้ายไปร่วมทัพ “ไก่เดือยทอง” จึงทำให้ กร็อบเบลาร์ ได้โอกาสทองที่จะขึ้นมาเป็นมือหนึ่งแทน

กร็อบเบลาร์ ลงสนามเป็นเกมแรกให้กับ “หงส์แดง” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 1981 แต่น่าเสียดายที่เขาไม่อาจช่วยทีมป้องกันประตูได้ ทำให้ทีมของเขาต้องพ่ายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 0-1 ที่สนาม โมลิเน็กซ์ สำหรับคลีนชีตครั้งแรกของเขา ต้องรออีกสองสัปดาห์ต่อมา เมื่อวันที่ 5 กันยายน ซึ่งสามารถเอาชนะ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 2-0 ที่สนาม แอนฟิลด์

ในระหว่างปี 1981-1994 กร็อบเบลาร์ ลงเล่นเป็นตัวจริง 627 นัดให้กับ ลิเวอร์พูล และเซฟลูกสำคัญๆให้กับต้นสังกัดอยู่เสมอ จนถูกกล่าวขานในช่วงนั้นว่าเป็นผู้รักษาประตูที่เหนียวที่สุดคนหนึ่งในลีกอังกฤษเลยทีเดียว จนกลายเป็นที่รู้จักโด่งดังไปในแวดวงฟุตบอล แถมกับสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนใคร หลายครั้งกับลูกเตะมุมเขาชอบพยายามขึ้นไปทำประตูอยู่เสมอเมื่อเวลาที่เหมาะสม ในปี 1984 ฟุตบอลรายการ ยูโรเปี้ยน คัพ ระหว่าง ลิเวอร์พูล และ โรม่า ซึ่งผลปรากฏว่าเสมอกันไป 1-1 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน และ กร็อบเบลาร์ ก็กดดันคู่แข่งด้วยท่าทียั่วยวนกวนประสาทจน คอนติ นักเตะของ โรม่า ยิงข้ามคานไปในที่สุด ทำให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์รายการนั้นไปครอง

ตลอดการค้าแข้งของเขากับ ลิเวอร์พูล กร็อบเบลาร์ได้รับเหรียญแชมป์มากมายก่ายกอง แต่หลังจากนั้นในปี 1992 การมาของนายทวารคนใหม่อย่าง เดวิด เจมส์ มาจาก วัตฟอร์ด ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของจุดจบการค้าแข้งของ กร็อบเบลาร์ ที่มีคู่แข่งในการอย่งชิงมือหนึ่ง อีกทั้ง เดวิด เจมส์ ยังหนุ่มแน่นกว่าด้วย และสุดท้ายเขาก็ถูกยืมตัวไปเล่นที่ สโต๊ค ซิตี้ ในที่สุด และ 14 ปีที่อยู่กับสโมสร ลิเวอร์พูล เขาคว้าแชมป์ลีกไปถึง 6 ครั้ง, เอฟเอ คัพ 3 ครั้ง, ลีก คัพ 3 ครั้ง และ ยูโรเปี้ยน คัพ 1 ครั้ง

หลังจากหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูล เขาย้ายไปร่วมทัพ “นักบุญแดนใต้” เซาแธมป์ตัน แบบไร้ค่าตัว ในฤดูกาล 1994-96 เขาได้ลงสนามเพียงแค่ 32 เกมเท่านั้น ก่อนที่เขาจะย้ายไปร่วมทัพ พลีมัธ ในที่สุด และอยู่ที่นั่นไปเพียง 1 ฤดูกาล ด้วยอายุอานามที่มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้น กร็อบเบลาร์ อายุปาเข้าไป 39 ปีเข้าไปแล้ว ทำให้ความไว้วางใจของโค้ชเริ่มน้อยลงทุกทีเพราะเชื่องช้าไปตามอายุแม้ประสบการณ์จะสูงส่งเพียงใดก็ตาม




กร็อบเบลาร์ ใช้เวลาอยู่กับสโมสร พลีมัธ และช่วงฤดูกาล 1996-97 จากนั้นเขาก็ใช้ช่วงเวลาสั้น ๆ กับ อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด, เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, โอลด์แฮม แอธเลติก, เชสแฮม ยูไนเต็ด, บิวรี่, ลินคอล์น ซิตี้ และ นอร์ธวิช วิตอเรีย ก่อนจะใช้เวลาที่เหลืออีก 2 ปี กลับไปค้าแข้งในประเทศบ้านเกิด และแขวนสตั๊ดที่นั่นด้วยวัย 50 ปี

เกียรติประวัติ

ลิเวอร์พูล

ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1: 1981–82, 1982–83, 1983–84, 1985–86, 1987–88, 1989–90
เอฟเอคัพ: 1985–86, 1988–89, 1991–92
ลีกคัพ: 1981–82, 1982–83, 1983–84
เอฟเอ ชาริตี้ ชิลด์: 1982, 1986, 1988, 1989, 1990
ถ้วยยุโรป: 1983–84
ฟุตบอลลีกซูเปอร์คัพ: 1986

credit : https://www.lfchistory.net/ 
images credit : https://www.si.com/
images credit : https://www.nasljerseys.com/
images credit : https://mn2s.com/
images credit : https://www.liverpoolfc.com/
images credit : https://www.thisisanfield.com/
images credit : https://www.empireofthekop.com/
images credit : https://www.gambling.com/
images credit : https://mn2s.com/