ยอดกองกลางชาวเช็ก ที่ถูกยกให้เป็นยอดแข้งแห่งทศวรรษ “พาเวล เนดเวต”

พาเวล เนดเวต เกิดวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 1972 เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวเช็กเกียที่เคยเล่นในตำแหน่งกองกลาง และเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลชาวเช็กเกียที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศ

เขาคว้าแชมป์ระดับประเทศและทวีปกับ ลาซิโอ ซึ่งชนะเลิศวินเนอร์สคัพสมัยสุดท้าย ส่วนในการเล่นกับ ยูเวนตุส เขาพาทีมเข้ารอบยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2003

เนดเวต เป็นผู้เล่นที่สำคัญคนหนึ่งของทีมชาติเช็กเกีย เขาเคยพาทีมชาติเข้าชิงชนะเลิศในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996 และได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 ที่เช็กเกียตกรอบรองชนะเลิศด้วยการแพ้กรีซ แต่เนดเวต ก็ติดทีมยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน

เนดเวต เริ่มต้นค้าแข้งตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ โดยได้เป็นเด็กฝึกหัดของทีมเยาวชน ดูก้าปราก ทีมประเทศเช็กก่อนจะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในปี 1991

เนดเวตอยู่กับดูคลาฯ ชุดใหญ่ได้แค่ปีเดียว สปาร์ต้า ปราก ทีมดังในลีกเช็กก็เซ็นสัญญาคว้าตัว เนดเวตไปร่วมทัพ ตลอด 4 ปีกับ สปาร์ต้า ปราก มิดฟิดล์ผมทองทำผลงานยอดเยี่ยม ด้วยการพาต้นสังกัดค้าแชมป์ลีก 3 สมัย ฟอร์มการเล่นดังกล่าวเตะตาแมวมองจาก อิตาลี ที่ดึงเขาไปเซ็นสัญญากับ ลาซิโอ ในปี 1996

หลังจากมาอยู่ที่นี่กับ ลาซิโอ เนดเวต ประสบความสำเร็จทันทีที่เล่นให้ทีม อินทรีฟ้าขาว และมีส่วนร่วมทำให้ ลาซิโอ ในยุคนั้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบหลาย 10 ปีที่เคยผ่านมา


โดยเริ่มตั้งแต่คว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ในฤดูกาล 1997-98 ต่อด้วยแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ ในซีซั่น 1998-99 ซึ่ง เนดเวต เป็นคนยิงประตูชัยดับ เรอัล มายอร์ก้า 2-1 ด้วย

เท่านั้นไม่พอ ในฤดูกาล 1999-00 อัจฉริยะผมทองยังพา ลาซิโอ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งเซเรีย อา และโคปปา อิตาเลียมาครองได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่ยุคทองของทัพเบียงโค่เชเลสเต้ต้องสะดุดลงด้วยปัญหาการเงินของสโมสรที่เสี่ยงล้มละลาย ทำให้ต้องขายนักเตะแถวหน้าของทีมออกไปเป็นว่าเล่น หนึ่งในนั้นคือ เนดเวต นั่นเอง

เนดเวต เองก็หนีไม่พ้นเป็น 1 ในเพชรเม็ดงามของ ลาซิโอ ที่ต้องขายเปลี่ยนเป็นเงินมาช่วยกอบกู้สถานะของสโมสร โดย ยูเวนตุส ยื่นขอซื้อเขาไปร่วมทัพในปี 2001 ในราคาสูงถึง 41 ล้านยูโร เพื่อนำไปแทนที่ ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพเลือดน้ำหอมที่ ยูเว่ฯ ขายไปให้ เรอัล มาดริดในซัมเมอร์นั้น

แม้ดูเหมือนความคาดหวัง และความกดดันจะสูง แต่ เนดเวต รับมือกับสิ่งแวดล้อมใหม่ในรังม้าลายได้ดีเยี่ยม นอกจากจะเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้งมิดฟิลด์ัตัวรุก และปีกซ้าย เนดเวดยังยกระดับฟอร์มของเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในสีเสื้อเบียงโคเนรี่

เขากลายเป็นตัวหลักของทีมม้าลายตั้งแต่ต้น และร่วมคว้าสคูเด๊ตโต้กับทีมตั้งแต่ฤดูกาลแรก ก่อนจะเดินหน้าซิวแชมป์มากมายทั้ง โคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัย และคัพ วินเนอร์ส คัพในปี 1998-99 แต่เรื่องน่าเสียดายคือ เนดเวต ไม่ได้มีโอกาสลงสนามในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เจอกับเอซี มิลาน ทีมร่วมลีกในปี 2003 ก่อนที่ยูเว่จะแพ้ดวลจุดโทษไปในที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นมิดฟิลด์ยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์แชมเปี้ยนลีก และแข้งยอดเยี่ยมเซเรีย อา อีกด้วย

สำหรับผลงานในทีมชาติ เนดเวต ได้ประเดิมติดธงนัดแรกเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 1994 และได้เป็นกัปตันทีมในเวลาต่อมา เนดเวต นำทัพเช็กสร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูโร 2004 แต่สุดท้ายก็พ่ายกรีซ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ชวดเข้าชิงอย่างน่าเจ็บใจ และ กรีซก็ได้เป็นแชมป์ในเวลาต่อมา

หลังจากได้ บัลลงดอร์ มาเชยชม ดูเหมือนความสำเร็จจะห่างหายไปจาก เนดเวต ในฤดูกาล2005-06 ยูเวนตุส เผชิญมรสุมครั้งใหญ่ในการโดนปรับตกชั้นไปเล่น เซเรีย บี จากคดีติดสินบนล้มบอล เล่นเอานักเตะแถวหน้าของทัพ เบียงโคเนรี่หลายราย โยกย้ายหนีทีมไป ขณะที่อนาคตของ เนดเวต ก็ได้รับการจับตามอง แต่สุดท้ายเจ้าตัวประกาศขอร่วมหัวจมท้ายไปกับทีมม้าลาย และสัญญากับแฟนๆ จะพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาให้ได้

แน่นอนว่า เนดเวต กลายเป็นขวัญใจอันดับต้นๆ ของสาวกเบียงโคเนรี่ จากความจงรักภักดีและผลงานที่ยอดเยี่ยมตลอด และสุดท้ายเขาก็ช่วยให้ยูเว่คว้าแชมป์เซเรีย บี ตั้งแต่เนิ่นๆ และกลับสู่เซเรีย อาได้ในทันที

ฤดูกาล 2008-09 กลายเป็นซีซั่นสุดท้ายในชีวิตนักเตะอาชีพของเจ้าตัว เพราะอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้งจนแทบจะเรียกความฟิตกลับมาไม่ได้เลย น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าทีมม้าลายไม่อาจช่วยปิดฉากรูดม่านเวทีค้าแข้งของ เนดเวต ให้สมบูรณ์แบบด้วยการคว้าแชมป์ใดๆ ในปีนี้ แต่ถึงกระนั้น ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า เนดเวต คืออีกหนึ่งสุดยอดมิดฟิลด์แห่งทศวรรษ ที่เป็นแบบอย่างยอดเยี่ยมทั้งในและนอกสนาม

เนดเวต ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรปในปี ค.ศ. 2003 โดยเขาเป็นชาวเช็กคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ แต่เป็นครั้งแรกหลังจากการแยกประเทศของเชโกสโลวะเกีย ในช่วงการค้าแข้งของเขา


เนดเวต ได้รางวัลส่วนตัวหลายรางวัล รวมไปถึงรางวัลเท้าทองคำสมัยที่สองในปี ค.ศ. 2004 นักฟุตบอลชาวเช็กยอดเยี่ยมแห่งปี (สี่สมัย) และลูกบอลทองคำ (หกสมัย) เขามีชื่อติดฟีฟ่า 100 โดยเปเล่ และติดทีมแห่งปีของยูฟ่าในปี ค.ศ. 2003, 2004 และ 2005 เขาเกษียณอาชีพหลังจบฤดูกาล 2008–09 สิ้นสุดการค้าแข้ง 19 ปี เขาลงเล่นเกมลีก 501 นัด (ยิงได้ 110 ประตู) และลงเล่นให้กับทีมชาติ 91 นัด (ยิงได้ 18 ประตู)

พาเวล เนดเวต อาชีพหลังจากแขวนสตั๊ด เขาทำหน้าที่เป็น รองประธานสโมสร ยูเวนตุส ต้นสังกัดสมัยค้าแข้ง มาจนถึงปัจจุบัน





เกียรติประวัติ
สปาร์ต้า ปราก
แชมป์เชกโกสโลวาเกีย ลีก 1 สมัย (1992-93), เช็ก กัมบรินัส ลีกา 2 สมัย (1993-94, 1994-95), เช็ก คัพ 1 สมัย (1996)
ลาซิโอ
แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 1 สมัย (1990-00), โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (1997-98, 1999-00), ซูเปอร์ คัพ อิตาเลียน 2 สมัย (1998, 2000), คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย (1998-99), ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย (1999)
ยูเวนตุส
แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัย ((2001-02, 2002-03, 2004-05*, 2005-06*), ซูเปอร์ คัพ อิตาเลียน 2 สมัย (2002, 2003), แชมป์ เซเรีย บี 1 สมัย (2006-07)(*ยูเวนตุส โดนริบแชมป์ และปรับตกชั้น เนื่องจากมีการทุจริตในผลการแข่งขัน)
ระดับทีมชาติ
ฟุตบอลยูโร 1996 : รองแชมป์
เกียรติประวัติส่วนตัว
ผู้เล่นยอดเยี่ยมเซเรียอาร์ : 2003
ผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมเซเรียอาร์: 2003
ผู้เล่นชาวยุโรปยอดเยี่ยม: 2003
ผู้เลนเชกยอดเยี่ยม: 1998, 2000, 2001, 2003, 2004
ผู้เล่นยอดเยี่ยมของนิตยสารเวิล์ด ซอคเกอร์: 2003
กองกลางยอดเยี่ยมในแชมเปี้ยนลีก: 2003
สปอร์สกี โนวอตนีย์ อวอร์ต: 2003
ผู้เล่นยอดเยี่ยมจาก อาร์เอสเอส:2003
ผู้เล่นยอดเยี่ยมระดับโลก: 2003
ผู้เล่นเชกยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ: 2003
ติดทีมแห่งปีของยูฟ่า: 2003, 2004, 2005
ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีประจำเวิร์ลด ซอคเกอร์ ไดเจสท์: 2003
รางวัลเท้าทองคำ: 2004

credit : https://sportmob.com/

images credit : https://twitter.com/

images credit : https://sportrevue.isport.blesk.cz/

images credit : https://www.charitystars.com/

images credit : https://sportmob.com/

images credit : https://www.manchestereveningnews.co.uk/

images credit : https://www.scoopnest.com/

images credit : https://www.eurosport.com/

images credit : https://footballdirecta.wordpress.com/

images credit :