ค่าน้ำบอล (Odds) คืออะไร และวิธีดูค่าน้ำในการแทงบอล

ค่าน้ำบอล (Odds) คืออะไร และวิธีดูค่าน้ำในการแทงบอล
ค่าน้ำแทงบอล วิธีดูค่าน้ำดูอย่างไร?
ค่าน้ำ MY
ค่าน้ำ HK
ค่าน้ำ EU หรือ DC
ค่าน้ำบอล (Odds) คืออะไร และวิธีดูค่าน้ำในการแทงบอล
เมื่อเข้าสู่ยุคของการแทงบอลออนไลน์ ราคาค่าน้ำได้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นตัวชี้วัดความได้เปรียบเสียเปรียบ และความต่างชั้นของทีมฟุตบอลแต่ละทีม และยังเป็นตัวกำหนดรางวัลที่คนแทงจะได้ตามอัตราความเสี่ยงที่ลงเดิมพันอีกด้วย

ค่าน้ำแทงบอล วิธีดูค่าน้ำดูอย่างไร?
ราคาค่าน้ำนั้นมีอยู่หลากหลายแบบ แต่หลักๆ แล้วจะดูจากตัวเลขที่ โต๊ะกำหนดมา เช่น ถ้าทีมที่เราเลือกแทง มีค่าน้ำ 0.90 หมายความว่า ถ้าบอลเข้าแล้วเราแทงไว้ 100 บาท เราจะได้เงิน 90 บาท และโดยหัก 10 บาท เป็นค่าน้ำให้กับทางเจ้ามือนั่นเอง

นอกจากอย่างที่บอกไปตอนแรกว่าค่าน้ำมีอยู่หลายแบบหลายชนิดซึ่งก็จะใช้แตกต่างกันไปตามแต่ละบ่อน แต่โดยหลัก ๆ แล้วค่าน้ำจะมีใช้กันอยู่ 3 แบบ คือ ค่าน้ำ MY, HK และ EU

ค่าน้ำ MY
ค่าน้ำ MY คืออัตราค่าน้ำของมาเลเซีย ซึ่งเป็นค่าน้ำที่คนไทยนิยมเล่นกันมากที่สุด เนื่องจากสามารถเลือกได้ถึง 2 ชนิดคือ ค่าน้ำดำ และค่าน้ำแดง

– น้ำดำ จะเหมือนกับอัตราการต่อรองปกติ ๆ ทั่ว ๆ ไปแต่ส่วนมากจะให้ราคาต่ำกว่าทุน เช่น น้ำดำ 0.90 บาท ถ้าเราแทง 100 แล้วบอลเข้าก็จะได้เงิน 90 บาท
ค่าน้ำ HK
ค่าน้ำ HK หรือ ค่าน้ำฮ่องกง เป็นค่าน้ำที่นิยมกันมากในแถบเอเชีย ซึ่งค่าน้ำชนิดนี้จะมีแต่น้ำดำไม่มีน้ำแดง แต่ข้อดีคือค่าน้ำดำของ HK มักจะมีราคาสูงกว่าทุน ซึ่งโดยส่วนมากราคาจะอยู่ที่ 1.2-1.5 ขึ้นไป วิธีดูค่าน้ำ HK สมมุติว่าทีมที่เราแทงมีค่าน้ำ HK อยู่ที่ 1.2 หมายความว่าถ้าเราแทง 100 บาท แล้วบอลเข้า ก็จะได้เงินมาอีก 120 บาท แบบไม่รวมต้นทุน เท่ากับว่าการแทงรอบนี้เราได้กำไรถึง 120 บาท
ค่าน้ำ EU หรือ DC
ค่าน้ำ EU หรือ DCคือ ค่าน้ำที่นิยมเล่นกันแถบยุโรป เป็นค่าน้ำที่ให้อัตราต่อรองสูงที่สุดแต่จะเป็นกำไรที่รวมต้นทุนเอาไว้แล้ว โดยอัตราค่าน้ำของ EU จะอยู่ที่ 2.0-2.5 ขึ้นไป แต่พอคำนวณออกมาแล้วกำไรโดยรวมจะไม่ต่างกับค่าน้ำอื่น ๆ มากนัก ยกตัวอย่างเช่น ค่าน้ำ 2.2 ถ้าเราแทง 100 แล้วบอลเข้า ก็จะได้เงินมา 220 บาท แต่ 220 บาทในที่นี้จะรวมต้นทุน 100 บาทในตอนแรกของเราเอาไว้แล้ว เท่ากับว่าเราได้กำไรจริงๆ คือ 120 บาท